120x120
จากกรณี น.ส.อรวี สำเภาทอง อายุ 18 ปี หรือ น้องแอปเปิ้ล นักเรียนสาวชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ของโรงเรียนประจำจังหวัดแห่งหนึ่งในจ.ระนอง ถูกแทงด้วยอาวุธมีด 17 แผล เสียชีวิตคาที่ ขณะเดินเท้าเข้าซอยเปลี่ยว ในซอยสำนักสงฆ์สะพานปลา ข้างโรงเจ ม.5 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง ขณะกำลังเดินทางไปหาเพื่อนสาวคนสนิท เมื่อช่วงหัวค่ำคืนวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมาเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ต.ค. จากกรณีการสนธิกำลังของคณะทำงานตำรวจชุดสืบสวน ได้ควบคุมผู้ต้องสงสัย ลูกเรือประมง วัย 19 ปี จำนวน 2 ราย จากท่าเทียบเรือ อ.คุระบุรี จ.พังงา และได้ควบคุมผู้ต้องสงสัย ซึ่งอยู่ในกลุ่มเพื่อนแรงงานต่างด้าวเพิ่มอีก 1 ราย เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา และนำตัวมาแยกสอบปากคำเพิ่ม ที่ สภ.เมืองระนอง ในคดีต้องสงสัยร่วมกันก่อคดีโหดใช้อาวุธมีดแทง น้องแอปเปิ้ล นักเรียนสาว วัย 18 ปี เสียชีวิต ตั้งแต่คืนวันที่ 28 ก.ย.58 ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาบางรายได้มีการยอมรับสารภาพว่า มีส่วนร่วมและรู้เห็นในการฆาตกรรมน้องแอปเปิ้ล แต่ยังไม่เปิดปากถึงใครเป็นมือสังหาร
โดยได้มีการแบ่งกำลังคณะทำงานชุดสืบสวน ทั้งจากตำรวจภูธรภาค 8 , ตำรวจกองปราบปราม , ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง และ ตำรวจ สภ.เมืองระนอง นำตัวผู้ต้องสงสัยไปตรวจสอบประวัติ พาไปตรวจร่างกาย ที่โรงพยาบาลระนอง และออกค้นหาวัตถุหลักฐานสำคัญที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าชุดเสื้อผ้าที่สวมใส่ หรืออาวุธมีดสังหาร เพิ่มเติมที่ใช้ในการก่อเหตุ
เบื้องต้นผู้ต้องสงสัยบางราย ได้สารภาพว่า มีการนำไปโยนทิ้ง บริเวณป่าชายเลนข้างคลอง พื้นที่ ม.5 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง หลังจากร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามรวบรวมหลักฐานสำคัญ เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจากศาลจังหวัดระนอง ที่ก่อเหตุคดีสะเทือนขวัญ
ภายหลังจากที่ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง มีการควบคุมตัวกลุ่มผู้ต้องสงสัยชายวัยรุ่นต่างด้าว ทั้ง 3 ราย ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมออนไลน์ของประชาชนจังหวัดระนองบางส่วน มีการแสดงความคิดเห็น ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมแพะ โดยโยนความผิดให้กับกลุ่มผู้ต้องสงสัยชาวพม่าหรือไม่
ทั้งนี้ได้มีกลุ่มบุคคลนิรนาม ทำแผ่นป้ายไวนิลขนาดใหญ่ ติดที่บริเวณปากซอย ทางเข้าจุดเกิดเหตุ ข้างสำนักสงฆ์สะพานปลา ม.5 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง เมื่อช่วงก่อนบ่ายที่ผ่านมา ด้วยข้อความว่า “ถึงคนร้ายตัวจริง!!! น้องแอปเปิ้ล ต้องไม่ตายฟรี ความลับไม่มีในโลก แด่ อรวี สำเภาทอง”
ที่ห้องทำงาน ณ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ส่วนที่คณะนายตำรวจชุดสืบสวน ได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยต่างด้าวไว้แล้ว รวม 3 ราย นั้น ยังไม่ใช่ผู้ต้องหาเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยเท่านั้น ส่วนที่มีผู้ต้องสงสัยบางรายให้การรับสารภาพว่า มีส่วนร่วมหรือรู้เห็นเหตุการณ์นั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในบันทึกสำนวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่
“การจะจับกุมตัวผู้ต้องหานั้น ขอให้มั่นใจว่าทางตำรวจต้องนำผู้กระทำผิดตัวจริงมา พร้อมพยานหลักฐานสำคัญที่รวบรวมได้ เพื่อที่จะสามารถขออนุมัติออกหมายจับได้ และเป็นที่ทราบกันดีว่าคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนทั้งประเทศให้ความสนใจ โดยเฉพาะประชาชนในจังหวัดระนอง ซึ่งในคดีนี้ต้องมีพยานและหลักฐานสำคัญตามกฎหมายที่สามารถดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่ดำเนินคดีโดยที่ไม่มีพยานหลักฐาน ในภายหลังก็สามารถตรวจสอบคดีนี้ได้ หากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการโดยขาดพยานและหลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะถูกดำเนินการตามกฎหมายเสียเอง คงจะไม่ทำแบบนั้นแน่นอน”
728x90
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น