ต่อมลูกหมาก อยู่ตรงไหน มีหน้าที่อะไร
ต่อมลูกหมาก อยู่บริเวณใต้กระเพาะปัสสาวะหน้าต่อลำไส้ใหญ่ และอยู่รอบท่อปัสสาวะ ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ และต่อมผลิตน้ำหล่อเลี้ยงอสุจิ ดังนั้นหากต่อมลูกหมากโต หรือมีสิ่งผิดปกติ จะทำให้ระบบปัสสาวะผิดปกติไปด้วย หรือทำงานได้ยากลำบากยิ่งขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
1. เพศชาย อายุ 50-70 ปี หรือมากกว่านั้น
2. กรรมพันธุ์ จากพ่อ และญาติมิตร
3. อาหาร จำพวกเนื้อแดง ไขมันจากสัตว์ และพฤติกรรมต่างๆ เช่น สูบบุหรี่
4. เคยทำหมันมาก่อน
5. มีระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนในเลือดสูง ซึ่งอาจเกิดจากการใช้ฮอร์โมนชนิดนี้เป็นเวลานาน
สัญญาณเตือนภัยของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
- มีอาการเดียวกับโรคต่อมลูกหมากโต คือถ่ายปัสสาวะลำบาก ต้องออกแรงเบ่ง หรือใช้เวลานาน
- หลังปัสสาวะรู้สึกยังปวดอยู่แต่ปัสสาวะไม่สุด
- ปัสสาวะกระปริบกระปรอย ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน
- อาจมีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ
- อวัยเพศแข็งตัว หรือหลังหลั่งอสุจิ แล้วมีอาการปวด
อาการของผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
- เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
- หากมะเร็งแพร่ไปที่กระดูกสันหลัง อาจปวดหลัง ซี่โครง หรือเชิงกรานด้านหลัง
- หากมะเร็งแพร่ไปที่ต่อมน้ำเหลืองต้นขา ขาอาจจะบวม
- หากมะเร็งแพร่ไปที่ประสาทสันหลัง อาจขาชา หรือขาอ่อนแรง
- หากมะเร็งแพร่ไปที่สมอง อาจปวดศีรษะ เดินเซ ทรงตัวไม่ดี แขนขาอ่อนแรง
หากพบสัญญาณเตือน หรือเริ่มมีอาการต่างๆ ดังกล่าว ให้รีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรค และหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมได้อย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะผ่าตัด หรือฉายรังสีบำบัด (ทำคีโม) ยิ่งตรวจเจอเร็ว ยิ่งมีสิทธิ์หายได้มากกว่า
วิธีป้องกันจากมะเร็งต่อมลูกหมาก
1. ลดอาหารที่มีไขมันจากเนื้อสัตว์สูง ทานผักและผลไม้เพิ่มให้มากขึ้น
2. ลดความอ้วนให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน อย่าให้เป็นโรคอ้วน
3. อาหารที่แนะนำให้ทาน : ธัญพืช ถั่วเหลือง เต้าหู้ มะเขือเทศปรุงสุก แตงโม มะละกอ และฝรั่งชมพู เพราะมีสารไลโคปีนสูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งได้
4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3-5 วัน ครั้งละอย่างน้อย 30 นาที
5. เข้าตรวจคัดกรองมะเร็งทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี
ใครที่มีความเสี่ยงก็หวังว่าจะรอดพ้นจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้อย่างทันท่วงทีนะคะ แต่หากใครที่ตรวจพบเชื้อมะเร็งแล้วก็ไม่ต้องเศร้าเสียใจไปค่ะ เทคโนโลยีก้าวล้ำไปไกลแล้ว หากตรวจพบเจอในระยะแรกๆ รับรองว่ามีโอกาสหายจากโรคร้ายนี้สูงแน่นอน เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ
ที่มา http://health.sanook.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น