กลายมาเป็นที่สนใจกันอีกครั้ง เมื่อมีกระแสข่าวว่า ป๋าเทพ โพธิ์งาม ดาราตลกรุ่นใหญ่ของไทยได้เริ่มลงทุนเปิดร้านทำธุรกิจอีกครั้ง เพื่อหาเงินมาล้างหนี้ งานนี้ ป๋าเทพ โพธิ์งาม จึงได้ขอออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าวผ่านทางรายการจุดเดือด ทางช่อง 2 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2558 โดยเผยว่า ธุรกิจใหม่ในครั้งนี้เป็นการเปิดร้านขายขนมเปี๊ยะ ซึ่งเดิมทีก็ไม่ได้ตั้งใจจะขายส่ง กะขายเป็นร้านเล็ก ๆ หน้าบ้าน มีอาหารตามสั่งด้วย แต่หลังจากที่หลานสาว หญิง รฐา นำภาพมาโพสต์โปรโมทลงอินสตาแกรม ก็มีคนสนใจโทรมาออร์เดอร์กันอย่างล้นหลามจนทำไม่ทัน มีคนสั่งเข้ามารอเป็นพันกล่อง แต่วันหนึ่ง ๆ ทำได้แค่ 2 ถาด หรือ 40 กล่องเท่านั้น ก็เลยต้องให้รอต่อไป
นอกจากนี้ยอมรับว่าก็มีเสียงด่าทอมาเหมือนกัน เพราะมารออาหารที่ร้านนานมาก ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่ามีแม่ครัวแค่คนเดียว แต่มีคนมารอกันเยอะเต็มร้าน ซึ่งแม้ว่าบางคนจะตั้งใจแวะมาคุยกับตน แต่เมื่อต้องรอนานมาก ๆ เป็นชั่วโมงทำให้บางครั้งก็รอไม่ไหว ลุกออกไปก่อนก็มี ซึ่งตนก็ทำได้แค่ต้องขอโทษด้วย
สำหรับร้านที่เปิดใหม่นี้ก็ไม่ได้ลงทุนอะไรมาก เพราะนำอุปกรณ์เตาต่าง ๆ จากธุรกิจเดิมที่เจ๊งมาทำใหม่ กับลงทุนทำร้านสร้างเพิงเล็ก ๆ เท่านั้น และก็กินนอนอยู่ที่ร้านนี้ ส่วนที่คนมองว่าเขาทำธุรกิจใหม่เดี๋ยวก็คงเจ๊งอีก ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคนเหล่านี้ก็ไม่ได้มาช่วยตน จะพูดอะไรก็พูดไป เดี๋ยวเมื่อยปากก็หยุดพูดกันเอง
ทั้งนี้ก็ยอมรับว่าเหนื่อย แต่ก็เป็นงานที่แปลกดี แม้จะไม่ใช่งานที่ใหญ่แต่ก็ทำให้เรามีความสุขใจ ยังรู้สึกงงที่มีคนบอกว่า ป๋าเทพ โพธิ์งาม เป็นคนสู้ชีวิต เพราะเอาจริง ๆ ตนก็ไม่ได้สู้อะไร แต่ต้องทำ ถ้าไม่สู้ก็อดแล้วจะกินอะไร แม้ว่าคนจะบอกว่าทำอะไรก็เจ๊ง แต่ตนก็มีเหตุผลที่ต้องมาทำตรงนี้ เราเจ๊งมาแล้วไม่เหลืออะไร แต่ก็ยังมีของที่เอามาใช้ได้ จึงเอามาใช้ ซึ่งก็ดีกว่าอยู่เปล่า ๆ ไม่ทำอะไร แล้วจะเอาอะไรกิน
สำหรับเรื่องหนี้นอกระบบที่กู้มา 3 ล้าน แต่ต้องใช้หนี้เกือบ 20 ปี ก็เป็นเพราะต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อเดือน ในแต่ละเดือนก็หมดเป็นแสนแล้วเฉพาะค่าดอกเบี้ยไม่รวมเงินต้น อย่างไรก็ตามที่มีหนี้สะสมส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะในขณะที่กำลังจะใช้หนี้หมด เราก็ไปกู้มาเพิ่ม แทนที่ได้เงินมาจะนำไปใช้หนี้ กลับนำไปลงทุนใหม่แล้วก็เจ๊งอีก แต่ส่วนตัวก็ไม่อยากจะคิดอะไรมาก มองว่าปัญหาทุกอย่างสามารถแก้ไขได้
สำหรับเรื่องหนี้นอกระบบที่กู้มา 3 ล้าน แต่ต้องใช้หนี้เกือบ 20 ปี ก็เป็นเพราะต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อเดือน ในแต่ละเดือนก็หมดเป็นแสนแล้วเฉพาะค่าดอกเบี้ยไม่รวมเงินต้น อย่างไรก็ตามที่มีหนี้สะสมส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะในขณะที่กำลังจะใช้หนี้หมด เราก็ไปกู้มาเพิ่ม แทนที่ได้เงินมาจะนำไปใช้หนี้ กลับนำไปลงทุนใหม่แล้วก็เจ๊งอีก แต่ส่วนตัวก็ไม่อยากจะคิดอะไรมาก มองว่าปัญหาทุกอย่างสามารถแก้ไขได้
ที่มา http://women.kapook.com/view135951.html
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น