(27 ม.ค.) พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ภูวดิท ชนะคชภัทร รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุริยา อยู่แพทย์ ผกก.สภ.อุทัย พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันควบคุมตัว นายธวัชชัย อายุ 26 ปี และ นายทัศไนย อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยทั้งสองถูกตั้งข้อหากระทำผิดฐานร่วมกันชิงทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืน หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิด เพื่อให้พ้นจากการจับกุมร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยร่วมกันกระทำความผิด ลักษณะเป็นการโทรมหญิง พาคนอื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อำนาจขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้ายหรือใช้วิธีข่มขืนใจ
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 00.30 น. ของวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามมาประกบ นางสาวเอย (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ขณะขับรถผ่านที่เปลี่ยว จากนั้นชิงทรัพย์เป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกูปปี้ และชิงโทรศัพท์ มือถือ 1 เครื่อง และลากพาเหยื่อขึ้นรถจักรยานยนต์ เพื่อไปกระทำชำเรา
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัว นายทัศไนย และ นายธวัชชัย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จุดที่ 1 บริเวณที่มาดักซุ่มหาเหยื่อน แยกสะพาน 1 อำเภออุทัย เมื่อเห็นเหยื่อผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์กำลังกลับบ้าน จึงขี่ตามประกบไป โดย นายทัศไนย เป็นคนขับ และนายธวัชชัย เป็นคนซ้อนท้าย
จุดที่ 2 บริเวณเชิงสะพานประตูระบายน้ำ ต.สามบัณฑิต ห่างจากจุดแรกประมาณ 5 กิโลเมตร นายทัศไนย ใช้มือเอื้อมเข้าไปบิดกุญแจรถเหยื่อและดึงกุญแจออก ก่อนบังคับให้หยุดรถ ทำให้รถของเหยื่อล้มลง เหยื่อพยายามวิ่งหนี จึงถูกวิ่งไล่ตามประกบและลงมือทำร้ายเหยื่อ ด้วยการตบและเตะ
นายธวัชชัยได้ค้นเอาทรัพย์สินของเหยื่อไป และบังคับเหยื่อให้นั่งหน้ารถจักรยานยนต์ โดยมี นายทัศไนย นั่งคอมไปด้วย ส่วน นายธวัชชัย ขี่รถจักรยานยนต์ ของเหยื่อตามไป เป็นระยะทาง 7 กิโลเมตร จนถึงจุดที่ 3 เป็นทุ่งนาเปลี่ยว ไม่มีแสงไฟส่อง ทั้ง 2 ได้พาเหยื่อลงไปในทุ่งนา จากนั้นช่วยกันกระทำชำเรารุมโทรมเหยื่อ จนสำเร็จความใคร่ ก่อนจะบังคับเหยื่อขึ้นรถจักรยานยนต์ และนำเหยื่อมาทิ้งไว้ข้างทางและหลบหนีไป
พล.ต.ต สุทธิ พวงพิกุล เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มีพฤติกรรมติดยาเสพติด ก่อเหตุจะนัดแนะกันขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากที่พัก หาก่อเหตุชิงทรัพย์เหยื่อในพื้นที่ อ.อุทัย อ.ภาชี อ.วังน้อย และพื้นที่ใกล้เคียง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้ร่วมกันดมสารระเหย (ประเภทกาว) เข้าไป
จากนั้นดักซุ่มรอเหยื่อที่เป็นผู้หญิง ขับรถมาคนเดียว เพื่อประสงค์จะชิงทรัพย์ แต่เมื่อเห็นเหยื่อมีรูปร่างหน้าตาดี จึงเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงได้ร่วมกันข่มขื่นและชิงทรัพย์เหยื่อและหลบหนี โดยของกลางที่คนร้ายได้ไปเป็นจักรยานยนต์ ได้นำไปแยกชิ้นส่วนขายได้เงิน จำนวน 1,400 บาท
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังพบว่าเคยต้องคดีลักทรัพย์ในท้องที่ ตั้งแต่สมัยยังเป็นเยาวชน เคยต้องโทษมาก่อน ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง มักจะขโมยรถจักรยานยนต์มาชำแหละขาย หารายได้ไปเที่ยวเตร่และซื้อสารเสพติด
ที่มา http://news.sanook.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น