เกมนัดชิงชนะเลิศ ที่สนามบางกอก อารีน่า ทีมชาติไทย แชมป์เก่าและแชมป์สิบสมัยชุดสีน้ำเงิน พบกับ ออสเตรเลีย รองแชมป์เก่าท่ามกลางแฟนฟุตบอลที่เข้าชมเกมเต็มความจุของสนาม 13,000 ที่นั่ง
ครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังจบสกอร์ไม่เด็ดขาด ทำให้ยังเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลัง ไทยเป็นฝ่ายทำเกมบุก แต่นาที 28 กลายเป็นออสเตรเลีย ที่มาได้ประตูออกนำ 1-0 จากการชาร์จจ่อๆของจาร็อดด บาสเจอร์
นาทีถัดมาไทยก็มาได้ประตูตีเสมอจาก กฤษดา วงษ์แก้ว. และในนาทีเดียวกัน กฤษฎา วงษ์แก้ว คนเดิม ยิงเข้าไป ให้ไทยพลิกนำ 2 ประตูต่อ 1
จากนั้นนาที 33 ไทยหนีห่างเป็น 3-1 จากการยิงของ สรศักดิ์ พูนจังหรีด
อีก 2 นาทีต่อมา ออสเตรเลียไล่มาเป็น 2-3 จากการชาร์จของบาเรียนโตส โจนาธาน
จากนั้นไทยออกนำ 4-2 จากวรุตม์ หวังสะมะแอล
ก่อนหมดเวลานาทีเดียว ออสเตรเลียไล่มาเป็น 3-4 จาก เดเนียล โฟการ์ตี้ จนกระทั่ง 10วินาทีสุดท้าย กฤษดา วงษ์แก้ว มาทำแฮตทริกให้ทีมชาติไทย
จบเกม ไทยชนะ ออสเตรเลีย 5-3 คว้าแชมป์อาเซียนไปครองเป็นสมัยที่ 11.รวมถึง เจษฎา ชูเดช ยังคว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดประจำทัวนาเมนต์ด้วยผลงาน 12ประตู. ด้านผู้เล่นทรงคุณค่า เป็นของกฤษฎา วงษ์แก้ว
โดยไทย, ออสเตรเลีย, มาเลเซียและเวียดนาม จะได้สิทธิ์แข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์เอเชียรอบสุดท้ายที่ประเทศอุซเบกิสถานระหว่างวันที่ 10-21 กุมภาพันธ์ปีหน้า เพื่อคัด 5 ทีมตัวแทนทวีปเอเชีย ไปแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2016 ที่ประเทศโคลอมเบียต่อไป
ที่มา http://www.thairath.co.th/clip/28477
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น